วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

โรคแพ้น้ำอสุจิ อาการน่ากลัว สาว ๆ ควรระวัง !


    ลองเช็กอาการสิว่าคุณสาว ๆ เป็นโรคแพ้น้ำอสุจิอยู่รึเปล่า

              ปกติแล้วเรามักจะได้ยินแต่โรคแพ้สารเคมีหรือแพ้อากาศปกติกันใช่ไหมล่ะ แต่ต่อไปนี้สาว ๆ ควรระวังไว้ให้ดี เพราะตอนนี้มีสาว ๆ หลายคนเป็นโรคแปลกประหลาดที่คุณคาดไม่ถึง อย่างโรคแพ้น้ำอสุจิ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้หญิงในสหรัฐอเมริกาเป็นกันมากถึง 20,000-40,000 คนเลยทีเดียว ฟังดูแล้วอาจจะชวนให้สงสัยใช่ไหมล่ะว่าเป็นยังไง ถ้าอยากรู้แล้วละก็ไปติดตามเรื่องราวของโรคประหลาดนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

              โรคแพ้อสุจิทำให้การมีเพศสัมพันธ์อาจกลายเป็นฝันร้ายของผู้หญิงได้ เพราะโรคนี้จะทำให้ผิวหนังเหมือนโดนเผาไหม้และมีอาการบวมแดง ซึ่งเรื่องราวนี้ก็เกิดขึ้นกับคู่รัก คลาร่า และ เจฟฟ์ (นามสมมติ) ที่ทางฝ่ายผู้หญิงเป็นโรคประหลาดแพ้น้ำอสุจิของฝ่ายชาย โดยทั้งคู่ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องผ่านรายการ ABC's Good Morning America เพื่อให้ผู้คนรับรู้ถึงความทรมานของคนเป็นโรคนี้ 

              ทั้งนี้คลาร่ากล่าว่า ครั้งแรกที่เธอมีเพศสัมพันธ์กับสามี ก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนผิวหนังไหม้ บวมพอง และแดงไปหมด แต่ในตอนแรกเธอคิดว่าเธอเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เฉย ๆ โดยอาการบวมพองที่ผิวนั้นเป็นนานถึง 24 ชั่วโมงแล้วค่อย ๆ ยุบตัวลงและผิวหนังก็มีอาการแสบร้อนไปหมด 

สาว ๆ กับการตรวจภายในที่ไม่ควรมองข้าม



    สาว ๆ กับการตรวจภายในที่ไม่ควรมองข้าม (Lisa)

              มะเร็งปากมดลูก ซีสต์ เนื้องอก และมะเร็งที่รังไข่ หรือมดลูก สามารถรู้แต่เนิ่น ๆ ได้ด้วยการตรวจภายในและอัลตร้าซาวนด์

              ดาราสาว นิโคล คิดแมน เคยได้รับการผ่าตัดซีสต์ที่รังไข่มาแล้ว ดังนั้น สาว ๆ ทั้งหลายจึงควรให้ความใส่ใจกับสุขภาพในช่องท้องน้อยและปากมดลูก ด้วยการตรวจภายในและอัลตร้าซาวนด์ ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสาวโสด หรือแต่งงานแล้ว 

          
    การตรวจภายในสำหรับผู้หญิงมีความสำคัญอย่างไร

              การตรวจภายในถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคน เพราะว่ามีหลายโรคของผู้หญิงที่ตรวจพบได้ก่อน โดยที่ผู้หญิงไม่มีอาการ การตรวจภายในจึงเป็นสิ่งช่วยป้องกัน และรักษาไม่ให้เกิดการสูญเสียในอนาคตได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะได้ไม่สูญเสียอวัยวะ หรือระบบสืบพันธุ์ ดังนั้นจึงควรได้รับการตรวจภายในเป็นประจำ สม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง แม้จะไม่มีอาการอะไร

    ควรเริ่มตรวจภายในเมื่ออายุเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นสาวโสด หรือแต่งงานแล้ว

              ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่ดูจากความเหมาะสมแล้ว อายุ 25 ปีขึ้นไปก็ควรได้รับการตรวจภายใน แต่ถ้าแต่งงานก่อนอายุ 25 ปี ก็ควรไปรับการตรวจทุก ๆ ปี

    คนไทยที่ยังโสดมักอาย แต่สำคัญอย่างไรแม้ว่าจะโสดก็ควรตรวจภายใน

              จริง ๆ แล้วการตรวจภายในเป็นการตรวจบริเวณปากมดลูกเป็นหลัก แต่เราไม่สามารถตรวจได้ แพทย์ก็มีวิธีที่ไม่ทำให้บาดเจ็บ หรือบอบช้ำได้ ถ้าเราพบแพทย์ผู้ชำนาญในการตรวจเพียงพอ จริง ๆ แล้วสาวโสดมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกน้อย ในกรณีที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย แต่อาจมีความผิดปกติด้านอื่น ๆ ได้ แต่ก็ไม่มาก ฉะนั้น ถ้าถามว่าสาวโสดไม่ตรวจภายในได้ไหม ก็ยังพอได้ แต่อาจตรวจดูเฉพาะภายนอก แล้วก็ตามด้วยการอัลตร้าซาวนด์ทดแทน ซึ่งอัลตร้าซาวนด์เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นเสียง ไม่มีรังสีใด ๆ ประโยชน์ก็อย่างเช่น ช่วยให้รู้ขนาดและรูปร่างของมดลูก ว่ายังปกติไหม

              ทั้งนี้ บางคนที่มีเนื้องอกที่มดลูกโดยไม่รู้ตัวมานาน เพราะว่า เนื้องอกของมดลูก 50% ไม่มีอาการ หรือบางคนมีก้อนเนื้องอกหรือถุงน้ำ ที่เรียกว่า ซีสต์ที่รังไข่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการ พบได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ ถึงขั้นเป็นมะเร็งก็มี

    การตรวจอัลตร้าซาวนด์ทุกปี สามารถบอกอะไรได้บ้าง

              อย่างน้อยการได้ตรวจอัลตร้าซาวนด์ ถ้าพบว่า มีเนื้องอกก็จะทำให้เรารู้ไว้ก่อนว่า เนื้องอกระดับที่เป็นอยู่อันตรายหรือยัง ก็จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ต่อไป แต่ถ้าเราไม่เคยตรวจเลย อาจรู้อาการก็ต่อเมื่อก้อนเนื้องอกใหญ่มากแล้วก็ได้ ฉะนั้น การตรวจทุกปีจึงมีประโยชน์ในการไม่ต้องรอจนมีอาการ ซึ่งจะรักษาได้ง่ายกว่า 

              นอกจากนี้ รังไข่ที่อยู่ภายในช่องท้อง หรือที่เรียกว่า ช่องเชิงกราน คือทั้งมดลูก และรังไข่อยู่ในท้องน้อย เพราะฉะนั้น การตรวจภายในสามารถช่วยได้ และถ้าได้ตรวจอัลตร้าซาวนด์ร่วมด้วยก็ยิ่งดี แต่ถ้าตรวจภายในไม่ได้ อย่างน้อยได้ทำอัลตร้าซาวนด์ก็ยังดี เพื่อจะได้ดูรังไข่และโพรงมดลูก เพราะรังไข่มีโอกาสเป็นตั้งแต่เนื้องอกจนถึงเป็นซีสต์หรือถุงน้ำ

    อวัยวะที่ควรได้รับการตรวจมีอะไรบ้าง

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Free Hosting
loading...